วิธีประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงรถยนต์
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องใช้รถยนต์เป็นประจำ เรามีประหยัดน้ำมันในช่วงที่ภาวะราคาน้ำมันการผันผวนตลอดเวลา และยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
- ขับรถด้วยความเร็วที่เหมาะสม การไม่ขับรถเร็วจนเกินไป ไม่แซงโดยไม่จำเป็น จะประหยัดได้ประมาณ 20% สำหรับอัตราความเร็วที่เหมาะสมในการประหยัดน้ำมันได้มากที่สุดคือ 60-80 กม./ชม. และความเร็วสูงสุดที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับทางธรรมดา คือ 90 กม./ชม. บนทางด่วน 110 กม./ชม.และบนทางมอเตอร์เวย์ 120 กม./ชม.
- บรรทุกของเท่าที่จำเป็น จะช่วยประหยัดได้ประมาณ 15% หากขับรถโดยบรรทุกของที่ไม่จำเป็นประมาณ 10 กิโลกรัม เป็นระยะทาง 25 กิโลเมตร จะสิ้นเปลืองน้ำมัน 40 ซีซี .
- หลีกเลี่ยงการเดินทางในวันและช่วงเวลาที่มีผู้ใช้รถเป็นจำนวนมาก ๆ เพราะหากรถติดอยู่กับที่นาน 30 นาที จะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมัน 750 ซี ซี. คิดเป็นเงิน 13.50 บาท (18 บาท/ลิตร) นอกจากนี้ยังทำให้เสียเวลาด้วย
- ตรวจเช็คลมยางว่ามีการสึกหรอถึง ระดับต้องเปลี่ยนหรือยัง และควรเติมลมยางให้เหมาะสมตามที่กำหนด เนื่องจากยางสึกหรอหรือลมอ่อนจะทำให้การทรงตัวของรถไม่ดี และสิ้นเปลืองน้ำมัน และหากความดันลมยางต่ำกว่ามาตรฐานทุก 1 ปอนด์ต่อตารางนิ้วจะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันเพิ่มขึ้น 2 % เช่น ยางขนาด 195 มิลลิเมตร (มม.) ควรเติมลมยางขณะไม่บรรทุก 26 ปอนด์ และยางขนาด 205-235 มม. ควรเติมลมยางขณะไม่บรรทุก 26-29 ปอนด์ เป็นต้น
- การทำความสะอาดไส้กรองอากาศทุกๆ 2,500 กม./ชม. หรือทุก ๆ 2-4 สัปดาห์ เพราะถ้าไส้กรองอากาศไม่สะอาดแล้ว จะทำสิ้นเปลืองน้ำมัน วันละ 65 ซีซี.
ตรวจเช็ครถก่อนเดินทางไกล
กรณีที่คุณต้องการเดินทางไกล สิ่งแรกที่ต้องทำคือตรวจเช็คสภาพรถยนต์ด้วยตัวคุณเอง เพื่อช่วยให้เกิดมั่นใจในการขับขี่ หรือหากพบข้อบกพร่องก็สามารถแก้ไขก่อนเดินทาง สำหรับวิธีการตรวจเช็คเบื้องต้นสามารถทำได้ดังนี้
ตรวจรถภายนอก - ยาง ตรวจความดันลมยาง ดอกยาง และรอยฉีกขาด
- ตรวจดูว่าขันแน่นดี แต่ก็ไม่แน่นจนเกินไปจนคลายออก ไม่ได้ด้วยตัวเอง
- รอยรั่วซึม ตรวจดูว่ามีร่องรอยน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรค หรือ น้ำรั่วซึมจากใต้ท้องรถ
- ยางปัดน้ำฝน ทดลองปัดดู
- ไฟส่องสว่าง ตรวจดูไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเบรค ไฟเลี้ยวหรืออื่นๆรวมทั้งระดับไฟหน้าด้วยว่าเป็นปกติทั้งหมด
ตรวจภายในรถ - ยางอะไหล่และแม่แรง ตรวจเช็คลมยาง และให้แน่ใจว่าแม่แรงและด้ามขันใช้งานได้ตามปกติ
- เข็มขัดนิรภัย ตรวจเช็คว่าหัวเข็มขัดสามารถลอ็คได้เรียบร้อย
- แตร ให้แน่ใจว่าดังดี
- แผงควบคุมและอุปกรณ์ ตรวจดูให้แน่ใจว่าทำงานเป็นปกติ และที่ปัดน้ำฝน ปัดได้เรียบร้อยสม่ำเสมอ
- เบรก เช็คระยะฟรีขาเบรคอยู่ในค่ากำหนดหรือไม่
- ฟิวส์สำรองที่เตรียมไว้ต้องมีขนาดค่ากระแสใช้ได้ตามที่กำหนดที่แผงฟิวส์
ตรวจใต้ฝากระโปรงหน้า - ระดับน้ำหล่อเย็น ควรจะมีอยู่ถึงระดับสูงสุดในถังพักสำรอง
- หม้อน้ำและท่อยาง ควรดูว่าด้านหน้าหม้อน้ำหมดจดไม่มีเศษวัสดุ หรือใบไม้ติดอยู่ ดูท่อยางว่ามีรอยแยก
เปื่อย มีรอยฉีกขาดหรือหลวม
- สายพานขับต่างๆ ต้องไม่มีรอยแตก เลอะน้ำมันหล่อลื่น และความตึงสายพานอยู่ในค่ากำหนด
- แบตเตอรี่และสายไฟ ตรวจดูและเติมน้ำกลั่นให้ได้ระดับที่กำหนดดูเปลือกแบตเตอรี่ว่ามีร่องรอย เสียหาย
หรือไม่ ดูขั้วต่อและสายไฟว่าอยู่ในสภาพดีหรือไม่
- ระดับน้ำมันเบรคและคลัชท์ ตรวจดูว่าระดับน้ำมันเบรคและคลัทช์อยู่ในระดับที่ถูกต้อง
- ท่อน้ำมันเชื้อเพลิง ตรวจดูว่าท่อน้ำมันมีการรั่วหลุดหรือไม่
เตรียมตัวอย่างไรก่อนซื้อรถ
ถามตัวเองก่อน สิ่งแรกที่คุณจะต้องทำในการเตรียมตัวซื้อรถนั่นก็คือการถามตัวเองก่อนว่าคุณ มีความจำเป็นในการใช้รถมากน้อยแค่ไหน บ้านคุณอยู่ไกลทำงาน ต้องไปรับลูก หรือแค่เห็นว่ารถรุ่นนี้สวย
กำหนดเงินที่มีอยู่ ข้อนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากทีเดียวหากคุณคิดจะซื้อรถสักคันเพราะเงิน คือสิ่งที่เป็นตัวกำหนดว่าคุณควรจะซื้อรถแบบใด ยี่ห้อใด หากว่าคุณต้องซื้อแบบเงินผ่อนล่ะก็ขอแนะนำว่าคุณต้องดูความสามารถในการผ่อน แต่ละเดือน ไม่ว่าจะเป็นค่าดอกเบี้ย ค่าประกันรถ ค่าซ่อมแซม ลองบวกลบคูณหารแล้วไม่ทำให้คุณเดือดร้อน
ยี่ห้อรถและราคาขายต่อ มีรถบางยี่ห้อราคาแพงลิบตอนคุณซื้อ แต่พอคุณคิดจะเปลี่ยนยี่ห้อกลับราคาตกอย่างน่าใจหาย จริงๆแล้วเรื่องราคาขายต่อนั้นก็มีปัจจัยหลายข้อที่ทำให้ราคาตกไม่ได้ขึ้น อยู่ที่สภาพหรือสมรรถนะของรถเท่านั้นแต่เกี่ยวกับเรื่องของกระแสความนิยม ความดังของยี่ห้อ สัญชาติของยี่ห้อ จำนวนศูนย์บริการ ราคาอะไหล่ ความชินตาที่เห็นบนถนน ความจุกจิกในการใช้งาน รูปลักษณ์ จำนวนคนที่รอซื้อต่อ หรือความยากในการขายต่อ ความใหม่ของยี่ห้อรวม ถึงการล้มหายไปของยี่ห้อ ฯลฯ ล้วนมีผลต่อราคาขายต่อทั้งนั้น ดังนั้นเรื่องยี่ห้อรถและราคาขายต่อนั้นก็ขึ้นอยู่กับตัวของคุณเองว่าจะ ตัดสินใจอย่างไร
ควรดูราคาหลายๆแห่งก่อนซื้อ เพราะว่าแต่ละบริษัทอาจจะมีโปรโมชั่นที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นอัตราดอกเบี้ยต่ำ อุปกรณ์เสริม เช่น ล้อแม็กซ์ แอร์ วิทยุ กันสนิม ซ่อมฟรี และฟรีประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 คุณควรจะลองดูหลายๆแห่งอาจจะได้รถดีราคาไม่แพงมากก็ได้
เช็คราคาอะไหล่และศูนย์บริการ รถบางยี่ห้อราคาอะไหล่แพงหูฉี่และหายาก มีความลำบากในการซ่อม รวมทั้งค่าซ่อมแพง หรือว่าบางยี่ห้อต้องใช้อะไหล่ของทางบริษัทเท่านั้น รวมถึงเรื่องของศูนย์บริการที่รถบางยี่ห้อมีไม่กี่แห่งอาจจะลำบากในการหา ศูนย์บริการหากคุณอยู่ไกล
เช็คราคาการประกันรถยนต์ ถ้าคุณจะซื้อรถเก่า ที่มีอายุการใช้งานเกินกว่า 10 ปี บริษัทประกันบางแห่ง จะไม่รับประกันภัยชั้น 1 ให้คุณถ้าเกิดกรณีอุบัติเหตุ จะทำให้คุณต้องเสียเงินมาก
หาข้อมูลเพิ่มเติม สื่อในปัจจุบันนั้นมีมากมายให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร หรืออินเตอร์เน็ต คุณสามารถเช็คข้อมูลได้ทุกเรื่องเกี่ยวกับรถที่คุณอยากรู้ แต่ต้องอย่าลืมว่าสื่อเหล่านี้ไม่ได้ถูกต้องไปเสีย100 % คุณอาจจะลองถามเพื่อนที่ใช้รถดูเค้าอาจมีคำแนะนำให้คุณแต่ความคิดส่วนตัวแต่ ละคนแตกต่างกันไป
ความเร็วเท่าไรจึงขับรถปลอดภัย!!
เพื่อเป็นการลดอุบัติเหตุบนท้องถนน ควรขับรถด้วยความเร็วตามกฎหมายกำหนด.......
บนทางหลวง ในเขตเทศบาล รถเก๋งหรือรถปิกอัพ ใช้ความเร็วได้ไม่เกิน 80 กม./ชม. รถบรรทุกหรือรถโดยสาร ไม่เกิน 60 กม./ชม. บนทางหลวง นอกเขตเทศบาล ให้รถเก๋งหรือปิกอัพ ใช้ความเร็วไม่เกิน 90 กม./ชม.รถบรรทุกหรือรถโดยสาร ไม่เกิน 80 กม./ชม. และ บนมอเตอร์เวย์รถเก๋งหรือปิกอัพ ไม่เกิน 120 กม./ชม.รถบรรทุกหรือรถโดยสาร ไม่เกิน 100 กม./ชม.
ทั้งนี้ในเชิงเทคนิค ได้รับการพิสูจน์และยืนยันจากทั่วโลก การขับขี่รถที่ ความเร็วไม่เกิน 90 กม./ชม. นอกจากช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้ 15-20% ยังช่วยลดการตายบนถนนได้ 12-24% แต่ความเร็วดังกล่าว ไม่สามารถลดอุบัติเหตุได้ หากทุกคนประมาท เมามายขณะขับรถ และการไม่ร่วมมือกันปฏิบัติตามกฎหมาย
ข้อมูลจากกองบัญชาการตำรวจนครบาลและสำนักงานนโยบาย
การล้างหม้อน้ำ ไม่ใช่เรื่องยาก
การทำความสะอาดหม้อน้ำจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อน และการกัดกร่อนภายในที่อาจเกิดขึ้นได้
- เริ่มด้วยการหาถุงพลาสติกคลุมอุปกรณ์ไฟฟ้าที่อยู่ใกล้ ๆ หม้อน้ำ แล้วมองหาปลั๊กถ่ายน้ำด้านล่างของตัวหม้อน้ำ และคลายไว้เล็กน้อย
- เปิดฝาหม้อน้ำ และเตรียมสายยางที่ต่อไว้กับก็อกประปา พร้อมติดเครื่องยนต์ให้ทำงาน คลายหัวไล่น้ำออก เอาสายยางที่มีน้ำไหลแหย่ลงไปในช่องที่เปิดฝาหม้อน้ำออกให้มีน้ำหมุนเวียนใน เครื่องยนต์อยู่ตลอดเวลา โดยน้ำจะไหลจากท่อยางที่เสียบลงไปจากด้านบนและไหลออกที่ช่องด้านล่าง ทำการทิ้งไว้สักพักจนน้ำเริ่มใส
- ปิดปลั๊กอุดด้านล่าง และปิดน้ำที่สายยาง ดับเครื่องยนต์ และเตรียมน้ำยาหล่อเย็น COOLANT เพื่อเพิ่มจุดเดือดของน้ำ
- คลายปลั๊กไล่น้ำเล็กน้อย เพื่อให้น้ำลดระดับลงไปบ้าง เติมน้ำยาหล่อเย็นลงไป ถ้ายังเติมไม่พอ ก็ไล่น้ำทิ้งออกไปอีกเล็กน้อย ไล่เติมจนได้สัดส่วนที่ข้างกระป๋องน้ำยาหล่อเย็นที่ระบุไว้ เช่น 0.5 หรือ 1 กระป๋องต่อรถยนต์ 1 คัน ฯลฯ
- ติดเครื่องยนต์ปล่อยให้ทำงานสักพัก เพื่อให้วาล์วน้ำ เปิดจนสุด มีการหมุนเวียนตามปกติ เติมน้ำยาในหม้อน้ำและถังพักให้ได้ระดับ ปิดฝาเป็นอันเสร็จ
ส่วนรถยนต์ที่ใช้หม้อน้ำ ระบบปิด ไม่มีฝาหม้อน้ำ ใช้เติมน้ำที่ถังพัก ก็ปฎิบัติคล้าย ๆ กัน แต่ต้องหาหัวไล่ลมให้พบ โดยในขั้นตอนสุดท้าย ต้องไล่ลมพิเศษออกจากระบบให้หมดที่หัวไล่ลมพิเศษนี้ด้วย
เอธานอล อัศวินม้าขาวของวิกฤตราคาน้ำมันเบนซิน
เชื่อหรือไม่ว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมานี้ ราคาน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว จะด้วยเหตุผลกลใดก็ตามผู้ที่ได้รับผลกระทบเต็ม ๆ ก็คือผู้บริโภคน้ำมันเบนซินอย่างพวกเราทุกคน ไม่เว้นแม้กระทั่งผู้ใช้น้ำมันดีเซลที่ราคาเพิ่มสูงขึ้นตามมาติด ๆ ในเมื่อเราไม่สามารถเลิกใช้รถเพื่อการเดินทางได้ ดังนั้นการใช้พลังงานทดแทนดูเหมือนจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด ณ ปัจจุบันนี้
เอธานอล คืออะไร เอธานอล เป็นแอลกอฮอล์ที่ได้จากการแปรรูปพืชประเภท แป้ง และน้ำตาล สามารถนำมาใช้ทดแทนน้ำมันเชื้อเพลิงได้ หากจะนำมาใช้เพียว ๆ เครื่องยนต์ก็ต้องออกแบบมาเพื่อใช้กับเชื้อเพลิงเอธานอลโดยเฉพาะ ซึ่งใช้กับเอธานอลบริสุทธิ์ 95 % (มีส่วนผสมของน้ำอยู่ 5 %) คงไม่คุ้มค่านักกับการเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่ให้สามารถใช้เชื้อเพลิงชนิดนี้ (ค่าใช้จ่ายอาจจะสูงจนสามารถนำไปดาวน์รถใหม่ได้) สำหรับเอธานอลบริสุทธิ์ 99.5 % สามารถนำไปผสมกับน้ำมันเบนซิน หรือ แกสโซลีน กลายเป็น แกสโซฮอล์ รูปแบบใหม่ของพลังงานทดแทนที่กำลังถูกกล่าวขวัญถึงอย่างกว้างขวาง
สำหรับประเทศไทย ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีสายพระเนตรกว้างไกลว่าในอนาคตอันใกล้นี้ พสกนิกรของพระองค์คงต้องประสบปัญญาราคาน้ำมันสูงเป็นแน่ แต่พืชพรรณทางการเกษตรกลับมีราคาตกต่ำลง โดยเฉพาะอ้อยที่นิยมเพาะปลูกมากจนมีปริมาณล้นความต้องการของประเทศ จึงมีพระกระแสรับสั่งให้โครงการส่วนพระองค์สวนจิตรดา ดำเนินการศึกษาค้นคว้าและทดลองใช้เชื้อเพลิงเอธานอลกับรถยนต์ โดยมีภาคเอกชนหลายหน่วยงานร่วมพัฒนาโครงการ จนประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ
อย่างไรก็ดี ภาครัฐควรเร่งการขยายสาขาให้บริการแกสโซฮอล์ให้มากยิ่งขึ้น เพราะนั่นหมายถึงการช่วยชาติลดการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปจากต่างประเทศ ลดการเสียดุลการค้า ที่สำคัญที่สุดผลผลิตทางการเกษตรที่นำมาแปรรูปเป็นเอธานอลได้จะมีมูลค่า เพิ่มขึ้น เกษตรกรผู้ผลิตก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้น ชีวิตการเป็นอยู่ดีขึ้น เช่นกัน
บทเรียนราคาแพงจากแบตเตอร์รี่
นับเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบนความประมาทเลินเล่อและเป็นอุทาหรณ์แก่ผู้ขับรถ ทุกท่าน โดยเฉพาะท่านที่ขับเป็นอย่างเดียวและไม่คิดที่จะหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยว กับการดูแลรักษารถยนต์ด้วยตนเอง ก็ใครจะไปคิดว่าแบตเตอร์รี่ลูกเล็ก ๆ ลูกเดียวจะสามารถสร้างความเสียหายให้กับรถยนต์ได้มากถึงเพียงนี้
เรื่องมีอยู่ว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยน แบตเตอร์รี่ลูกใหม่ก็เลยขับรถไปเปลี่ยนที่ร้านโดยเลือกแบตเตอร์รี่ชนิดเติม น้ำกรดแล้วใช้งานได้ทันที ไม่นานช่างก็บอกว่าเรียบร้อยแล้วจึงชำระเงินแล้วขับรถไปธุระต่างจังหวัด
ระหว่างทางเมื่อรถตกหลุมหรือผ่านทางขลุขละมาก ๆ จะได้ยินเสียงดังมาจากเครื่องยนต์แต่ไม่ได้เอะใจเพราะความไม่รู้จึงคิดไปเอง ว่า “มันเป็นเรื่องปกติ” จนกระทั่งมาถึงปั๊มน้ำมันเลยได้มีโอกาสออกมายืดเส้นยืดสายนอกรถทันใดนั้นก็ ได้กลิ่นผิดปกติเล็ดลอดออกมาจากห้องเครื่อง แต่ก็ยังคิดว่า “มันเป็นเรื่องปกติ” แล้วก็ไม่ได้สนใจอะไร
จนกระทั่งจะออกเดินทางต่อ เพื่อนที่มาด้วยรู้สึกถึงกลิ่นที่ไม่ปกติจึงขอเปิดกระโปรงหน้ารถดูถึง กระนั้นก็ยังปลอบใจเพื่อนอีกว่า ไม่มีอะไรหรอก “มันเป็นเรื่องปกติ” แต่ก็ทนการรบเร้าจากเพื่อนไม่ได้จึงยอมเปิดฝากระโปรงให้ดู ทันทีที่เพื่อนเปิดกระโปรงหน้ารถขึ้น สีหน้าก็บอกทันทีว่าต้องเกิดเรื่องยุ่งยากขึ้นแน่ ๆ
แทบไม่เชื่อสายตาตัวเองว่า เครื่องยนต์ที่เห็นอยู่ตรงหน้านี้เป็นเครื่องเดียวกับตอนที่เปลี่ยนแบตเตอร์ รี่เพราะตอนนี้มันเต็มไปด้วยคราบสีขาว วัสดุที่เป็นยางก็ยุ่ยละลายเป็นจุด ๆ ที่เด่นชัดสุดก็คือตำแหน่งของแบตเตอร์รี่บัดนี้มันเอียงผิดไปจากตำแหน่งเดิม น็อตของสายยึดแบตฯ หลุดหายไป ฝาปิดช่องเติมน้ำกลั่นปิดไม่สนิทตัวถังด้านในด่างเป็นจุด ๆ และยังกระเด็นเลยไปโดนตัวถังด้านนอกอีก โอย!!! ลมแทบจับ มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย ณ วินาทีนั้นคิดอะไรไม่ออก มันมืดแปดด้าน โชคดีที่ปั๊มนี้มีบริการตรวจเช็คเครื่องยนต์ จึงขอให้ช่างมาดูซึ่งช่างได้เติมน้ำกรดให้ใหม่ปิดฝาให้สนิท ขยับให้แบตฯเข้าที่เข้าทางขันให้แน่น เอาน้ำเปล่ามาราดที่เครื่งยนต์ให้น้ำกรดเจือจางไปบ้างถึงแม้ว่ามันคงช่วย อะไรไม่ได้มากก็ตาม แล้วแนะนำให้นำรถเข้าอู่ซ่อมตัวถังและสีเพื่อแก้ไขสิ่งที่น้ำกรดกร่อนโดย เร็ว ก่อนที่จะเสียหายมากไปกว่านี้
เป็นอันว่าธุระก็ไม่ได้ไปและยังต้องขับรถกลับกรุงเทพฯอีกเป็นร้อยกิโล ตลอดการเดินทางกลับนึกโทษตัวเองตลอดว่าทำไมเราไม่สนใจเรื่องการดูแลรักษารถ ยนต์บ้างนะ แค่เสียเวลาอีกไม่กี่นาทีเพื่อตรวจความเรียบร้อยซ้ำอีกครั้งความเสียหายนี้ ก็คงไม่เกิดขึ้น และเมื่อมาถึงอู่ซ่อมสีช่างได้ตรวจสอบให้อย่างละเอียดปรากฏว่าความเสียหาย นั้นมากมายกว่าที่คิด ท่อยางและสายไฟต่าง ๆ ที่โดนน้ำกรดต้องเปลี่ยนใหม่หมด ส่วนที่เป็นโลหะถ้าปล่อยทิ้งไว้สนิมจะขึ้น ชิ้นส่วนไหนที่พอจะขัดออกได้ก็ขัดออกแล้วเคลือบป้องกันสนิมใหม่ ชิ้นส่วนที่เสียหายมากก็ต้องเปลี่ยน นอกจากนี้ ฝากระโปรง,กันชนหน้า,กระจังหน้า,แก้มหน้าซ้าย(ด้านที่แบตฯอยู่) เรียกได้ว่าแทบจะทุกชิ้นส่วนได้รับความเสียหาย วิธีการแก้ไขก็ต้องถอดส่วนต่าง ๆ ออกมาเป็นชิ้น ๆ เพื่อให้ช่างได้ทำงานได้สะดวก แล้วคุณจะรู้สึกยังไงถ้าได้เห็นรถคันงามของคุณในสภาพที่ถูกถอดออกเป็นชิ้น เล็กชิ้นน้อย
เบ็ดเสร็จแล้วงานนี้หมดค่าซ่อมไปหลายหมื่นบาท นับเป็นบทเรียนราคาแพงที่ต้องจดจำไปชั่วชีวิต ตั้งแต่วันนั้นคู่มือการใช้รถทีไม่ได้เปิดอ่านเลยตั้งแต่ซื้อรถมาใหม่ ๆ ก็ถูกทำความรู้จักอย่างละเอียดถี่ถ้วนครบทุกตัวอักษรนอกจากนั้นยังได้ทำความ รู้จักกับเครื่องยนต์ในจุดต่าง ๆ ว่าเรียกว่าอะไร มีความสำคัญอย่างไรบ้าง เพื่อวันข้างหน้าจะได้ไม่เกิดปัญหาจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ซ้ำอีก
เมื่อขับรถยนต์ขณะฝนตก
ขณะขับรถยนต์ แล้วมีน้ำขังอยู่บนพื้นถนน ถ้าวิ่งด้วยความเร็วสูงยางรถจะแทรกเข้าไปในน้ำที่ขับอยู่ ทำให้ล้อไม่สามารถหมุนได้ แต่จะเคลื่อนไปบนน้ำเหมือนสกีน้ำ ภาวะดังกล่าวเรียกว่า การเกิดไฮดรอพ เรนนิ่ง (HIGH DROP RAINING) ถ้าเกิดภาวะเช่นนี้ จะรู้สึกว่าพวงมาลัยเบามากและไม่สามารถจะเบรคหรือเลี้ยวรถได้เลย และจะทำให้การเบรค การใช้พวงมาลัยไม่ค่อยได้ผล
เพื่อไม่ให้เกิดภาวะไฮดรอพ เรนนิ่ง ขึ้นให้ใช้ความเร็วต่ำกว่าวันที่อากาศดี หากเกิดภาวะดังกล่าว อย่ารีบร้อนหักพวงมาลัย หรือเหยียบเบรค เพราะจะก่อให้เกิดอันตรายได้ ควรจับพวงมาลัยให้มั่นและปลดเกียร์ต่ำ แล้วรอให้ความเร็วลดลงอย่างมีสติ
กรณีที่ขับรถระหว่างฝนตกหนัก หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีน้ำขัง โดยพยายามเบี่ยงออกทางด้านซ้ายหรือขวาของแอ่งน้ำ น้ำฝนอาจจะเข้าไปในเบรค ทำให้เบรคไม่ทำงานชั่วขณะได้ ให้ใช้วิธีเหยียบเบรคเบาๆหลายๆครั้ง เพื่อทำให้เบรคแห้ง
เกียร์อัตโนมัติ
· กรณีที่สตาร์ทเครื่องยนต์แต่ไม่ติดขึ้นมา โดยที่ไม่เสียงเครื่องยนต์ดังแม้แต่นิดเดียว เมื่อบิดสวิตช์กุญแจ ให้ท่านลองโยกที่คันเกียร์ด้วยการผลักไปมา และมาหยุดลงที่ตำแหน่ง P ก่อนที่จะโยกเบาๆ ให้เข้าทาง แล้วจึงสตาร์ทเครื่องยนต์ขึ้นมา
· การใช้สวิตช์ O/D ที่ตำแหน่ง ON หรือ OFF กับความเร็วไม่เกิน 100 กม. ต่อ ชม. ก็สามารถใช้ได้ ไม่ส่งผลเสียต่อเครื่องยนต์แต่อย่างใด สามารถทำสลับเปลี่ยนไปได้ตลอดเวลา โดยไม่ต้องจอดรถ เพียงแต่จะมีความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงต่างกันเท่านั้น
ดูแลพวงมาลัยพาวเวอร์
1. ตรวจสอบระดับน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ การปล่อยให้ระดับน้ำมันเพาเวอร์พร่องไป จะทำให้เกิด
อาการพวงมาลัยหนักขึ้นในบางจังหวะได้เช่นกัน
2. ตรวจสอบสภาพสายพานเพาเวอร์ หากขับรถอยู่แล้ว เกิดสายพานขาด ก็ไม่ใช่จะอันตรายถึงขนาด
ควบคุมทิศทางไม่ได้ การควบคุมทิศทางยังสามารถทำได้อยู่ เพียงแต่ต้อง ออกแรงมาก เพื่อหักเบน
พวงมาลัย เพื่อนำรถเข้าข้างทาง
ขอแนะนำ : หมั่นนำรถเข้าตรวจเช็คตามระยะที่ศูนย์บริการกำหนดไว้
พวงมาลัยเล็กใหญ่มีอะไรแตกต่างกัน
พวงมาลัยวงเล็กและวงใหญ่จะใช้จำนวนรอบการหมุนเท่ากัน สามารถทดสอบได้โดยนับรอบจากการทำเครื่องหมายไว้บนพวงมาลัยดู แล้วหมุนจากซ้ายสุดไปขวาสุดแล้วนับจำนวนรอบ โดยนับรอบจากที่ทำเครื่องหมายไว้บนวงพวงมาลัยแล้วจดบันทึกไว้ว่าหมุนไปกี่รอบ แต่จะมีข้อแตกต่างกันที่ การออกแรงหมุน พวงมาลัยวงเล็กต้องออกแรงมากกว่า แต่สาวได้เร็วกว่า การตอบสนองเวลาเลี้ยวก็จะไวกว่า แต่ก็ต้องระวัง เพราะบางครั้งไวไป กรณีผู้ขับไม่ชินก็อาจเกิดอันตรายได้ ส่วนพวงมาลัยวงใหญ่ใช้แรงหมุนน้อยกว่า แต่การสาวพวงมาลัยก็ช้ากว่าเช่นกัน